วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ได้เวลาก้าวเดิน

หลังจากที่สมัคร Blog มานานก็ได้เริ่มเขียนซะที คงจะเป็นการเขียนไดอารีอีกแบบหนึ่งที่พยายามจะสอดแทรกมุมมองที่แตกต่างขึ้น รวมถึงแม้กระทั่งเหตุกาณ์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน นำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อจับเป็นประเด็น หลายคนอาจลืมไปแล้วหรือกำลังประสบอยู่

เกือบสามสิบปีแล้วที่เดิน อยู่บนเส้นทางที่มีทั้งสุข เศร้า เหงา รัก รวมทั้งเกือบเป็น NPL ผมก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนรู้สึกอย่างไรกับสถานที่ เวลาเขียนไดอารี่ ณ วันที่เขียนนี้นั่งอยู่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในปั๊มน้ำมัน มันก็เพลินดีเหมือนกัน ไม่เหมือนอยู่ที่บ้าน มันรู้สึกตันๆไงพิกล

มีข่าวแว่วมาว่าเชียงใหม่ เป็นเมืองที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุด อ.สมิธ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ทางหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ผมเองอยู่เชียงใหม่มาก็ หลายสิบปีแล้ว สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอยู่บ่อยครั้ง ดึกๆอาจมีกรอบรูปแกว่งไปแกว่งมา เตียงสั่น นึกว่าโดนผีอำ แต่ก็ไม่ได้กลัวอะไรมาก แต่ละวันก็ดำเนินชีวิตต่อไป

ผมว่าภัยธรรมชาติตอนนี้ ยังไม่ค่อยน่ากลัวเท่าเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา ทำเอาบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหน้างิ๊กนั่งเม้าไปตามๆกัน ผมเองก็โดนผลกระทบเศรษฐกิจไม่น้อย ธุริกจที่ดำเนินอยู่ก็สะดุด คนงานเริ่มมีเสียงเซ็งแซ่ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่เป็นการจ้างรายวัน บางวันจำเป็นต้องหยุด

หลายคนคงเริ่มมองหาช่องทาง การหารายได้ใหม่ๆ สมัยนี้มีเต็มไปหมดอยู่ที่ว่าใครจะคว้าได้ก่อน อินเทอร์เน็ตกำลังบูม การหารายได้ก็มากขึ้น คงเคยได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆที่มีคนร่ำรวยจากอินเทอร์เน็ต แต่ก็มีคนไม่น้อยที่โดนหลอกผ่านช่องทางนี้ ผมเองรู้สึกเบื่อกับอีเมล์ขยะที่เข้ามาบอกว่า เป็นลูกคนนั้น คนนี้ มีเงินรออยู่หลายล้านต้องการคนช่วยเหลือ ก๊อบปี้ข้อความกันไปกันมา ไม่เปลี่ยนแนวซะที ทุกท่านเห็นด้วยหรือไม่ครับ

ผมเองเคยโดนพวกต้มตุ่น โทรศัพท์มาบอกคุณคือผู้โชคดี จากการสุ่มรับเงินรางวัลหลายหมื่นแต่ต้องจ่ายค่าภาษี ผมเองก็งง ตอนแรกก็ดีใจไม่ใช่น้อยรีบเดินไปที่ตู้ ATM ผมไม่แน่ใจเลยถอนเงินสดออกมาก่อน แล้วพวกนั้นก็โทรมาให้กดโอนเงิน จะบ้าหรอมีที่ไหนให้เราโอนเงินไปก่อน เกือบเสียตังค์แล้วครับพี่น้อง

ณ ตอนที่เขียนนี้อยู่ด้านนอกร้านกาแฟ อากาศร้อนอบอ้าวมาก เหมือนฝนจะตก อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะครับ

แล้วเจอกันใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร่วมแนะนำติชมกันได้ครับ